Data-Driven McDonald’s เพิ่ม conversion 550% ด้วย Machine Learning ใน GA4 ??
สวัสดีค่ะสมาชิก Data Club ทุกท่าน วันนี้มี study case น่าสนใจมาฝากกันอีกแล้ว แบรนด์ fast food ระดับโลก อย่าง McDonald’s ในฮ่องกง ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ปรับตัวมาใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดจนประสบความสำเร็จ จะเป็นอย่างไรนั้น อ่านได้ที่นี่เลยค่า ?
เรียบเรียงข้อมูลจาก everydaymarketing.com
?อ่านเนื้อหาจากรูปภาพ หรือข้อความใต้เซ็ทรูปภาพก็ได้ เนื้อหาเหมือนกันค่า
?GA4 คืออะไร
GA4 หรือ Google Analytics 4 (ชื่อเดิมก็คือ App and Web Property) เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด อาวุธสำคัญของแบรนด์ที่มี website และ application เป็นของตัวเอง ช่วยให้แบรนด์โฟกัสไปที่ลูกค้าอย่างแท้จริง ให้ความสำคัญกับ micro-moments และยังสอดคล้องกับ Data Privacy อีกด้วย
?Conversion คืออะไร
Conversion (CV) หมายถึง ยอดขายที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจ และสำหรับการตลาดออนไลน์ หมายถึง กลุ่มเป้าหมายที่ตอบสนองต่อโฆษณา หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เช่น การคลิกเข้ามาดู การกดถูกใจ การสมัครสมาชิก หรือการสั่งซื้อ เป็นตัน
?McDonald’s ฮ่องกง และยอด conversion สุดปัง
เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้บริการ online shopping หรือสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์ม food delivery มากขึ้น แต่การฝากขายบน application ต่าง ๆ นอกจากจะโดนหักค่า GPที่สูงแล้วยังไม่ได้ customer data มาวิเคราะห์ข้อมูลเองอีกด้วย ดังนั้นแบรนด์ที่เคยมีแอปฯ เป็นของตัวเองจึงหันมากระตุ้นให้ลูกค้าซื้อผ่านแอปฯ อีกครั้ง และหนึ่งในนั้นคือ McDonald’s ฮ่องกง ที่ใช้ Machine Learning ใน GA4 มาช่วย Predict คาดการณ์อนาคตได้แม่นยำมากขึ้น
McDonald’s ฮ่องกงวางกลยุทธ์การขายใหม่แบบ Data-Driven ด้วยการใช้ Machine Learning ช่วยหา“Likely 7 Day Purchasers” หรือกลุ่มคนที่น่าจะซื้อภายใน 7 วันออกมา แล้วก็ทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ออกไปยังคนกลุ่มนั้น เท่านี้ก็ได้ conversion เพิ่มขึ้นถึง 550%
นอกจากการทำ Personalized Marketing ออกไปยังกลุ่มคนที่น่าจะซื้อภายใน 7 วัน ในขณะเดียวกันก็ทำ A/B Testing เทียบกับคนอีกกลุ่ม เพื่อวัดว่า 2 กลุ่มนี้จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญมั้ย ซึ่งผลออกมาว่าต่างกัน McDonald’s จึงทำการส่ง Promotion Campaign ไปหากลุ่มที่น่าจะซื้อภายใน 7 วัน แทนที่ส่งให้ใครก็ได้เหมือนก่อน เป็นการลด CPA Cost-Per-Acquisition ต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ลงไปได้กว่า 63% อีกด้วย
?ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการตลาดและเลือกใช้เครื่องมือที่ฉลาดและประสบความสำเร็จมากทีเดียว นอกจากนี้อาจจะพัฒนาต่อยอดไปทำ Sub Segments เพิ่มเติมว่า ว่าแล้วภายในกลุ่ม Likely 7 Day Puschasers นั้นแต่ละกลุ่มชอบซื้อสินค้าแบบไหน หรือช่วงเวลาใด งานนี้มีแต่คำว่า ปัง!
